ห้องครัวเล็กมาก ลุยกันสามคน ผม ลุง ป้า
|
ที่ไม่พอ ต้องมาจัดจานข้างนอก |
ออร์เดอร์มาเรียงกันเป็นแถว ทำไม่ได้หยุด |
ความเดิมจากตอนที่แล้ว ที่ไปสอบมา และให้รอผลสาม-สี่วัน เมื่อวานพี่ที่ไปสอบด้วยกันโทรมาบอกว่า แกสอบตก แต่ผมสอบผ่าน ทั้งเสียใจกับแกและก็ดีใจกับเราในเวลาเดียวกัน ได้แต่ปลอบใจแกว่า เดือนหน้าสอบใหม่ ยังไงก็ผ่าน ส่วนผมเองแทบจะเก็บความดีใจเอาไว้ไม่ไหว วางหูเสร็จแทบจะกระโดดคุณภรรยา
วันที่สอบเสร็จ จำได้ว่าเหนื่อยมาก ผมทุ่มเทพลังทั้งหมดไปกับการสอบวันนั้น มีเชฟโรงแรมไปสอบหลายคน บางคนเล่าว่าเขาต้องมาสองครั้งนี้เป็นครั้งที่สอง ทั้งที่เขาทำอาหารมาเป็นสิบปี ได้ยินอย่างงั้น ผมก็ยิ่งคิดว่าผมต้องสอบผ่านให้ได้ แม้มันจะยาก แต่ผมจะไม่ยอมเสียเวลาแน่ๆ ผมจะมาวนเวียนสอบแล้วไม่ไปถึงไหนไม่ได้ ต้องผ่านวันนี้แหละ คิดแล้วมือก็สั่นๆ เพราะประสบการณ์เราก็น้อยจริงๆ แต่ก็สอบผ่านมาได้ ผมก็ถือว่าตัวเองทำได้ดีพอสมควร กับการสอบเพียงครั้งเดียว แต่คนที่ทำได้ก็มีเยอะนะครับ ไม่ใช่เฉพาะผมนะ คนที่ไม่ผ่านในครั้งเดียวก็เยอะเหมือนกัน
ที่ผมพอจะแนะนำได้ สำหรับคนที่จะเข้าสอบมาตรฐาน มีดังนี้ครับ
1. ตั้งใจเรียน/เข้าอบรมกับสถาบันที่จัดสอบ
คุณต้องตั้งใจมุ่งมั่นในสิ่งที่ทำ ผมแนะนำให้เข้าอบรมไม่ว่าจะหลักสูตรระยะสั้นหรือยาวก็เข้าไปเถอะ เราจะได้ความรู้มากกว่าที่คิด ทั้งยังได้รู้จักเพื่อนใหม่ๆที่สนใจเรื่องเดียวกันด้วย ที่สำคัญเวลาเรียน เวลาหัดทำให้ตั้งใจด้วยนะครับ อย่ามัวแต่เล่น แต่ก็อย่าเครียดจนเกินไป เดี๋ยวจะกลายเป็นเรื่องไม่สนุก
2. ทำอาหาร และก็ทำอาหาร
ไม่ต้องคิดแล้วว่าจะทำอะไร ทำอาหารแม่มอย่างเดียวเลย ฉวยทุกโอกาสทุกเวลาให้ได้ทำอาหาร ที่บ้านเอย ข้างนอกถ้าเป็นได้ ยิ่งเราทำมาก มันจะยิ่งคล่อง และจะรู้ข้อผิดพลาดที่จะต้องเอาไปปรับปรุง ซึ่งการทำบ่อยๆดีกว่าไม่ทำหรือทำน้อย
ไม่ต้องคิดแล้วว่าจะทำอะไร ทำอาหารแม่มอย่างเดียวเลย ฉวยทุกโอกาสทุกเวลาให้ได้ทำอาหาร ที่บ้านเอย ข้างนอกถ้าเป็นได้ ยิ่งเราทำมาก มันจะยิ่งคล่อง และจะรู้ข้อผิดพลาดที่จะต้องเอาไปปรับปรุง ซึ่งการทำบ่อยๆดีกว่าไม่ทำหรือทำน้อย
3. หาประสบการณ์ให้มาก เงินเอาไว้ทีหลัง
อันนี้เป็นวิธีที่ผมใช้ คือ ไปขอทำงานร้านคนรู้จัก โดยไม่ขอรับเงินตอบแทน อันนี้จะเพิ่มโอกาสประสบการณ์การทำงานในครัวให้กับเรา จะได้รู้ว่าในครัวร้านอาหารจริงๆเขาทำกันยังไง ต้องเกี่ยวข้องกับอะไรบ้าง การเตรียมของ ความวุ่นวาย ปัญหาในครัว การทำงานจริง ฝึกความเหนื่อย ความอดทน ความร้อนจากเตา มีประโยชน์มากแน่ๆเวลาทำงานจริง กับการทดสอบมาตรฐาน
อันนี้เป็นวิธีที่ผมใช้ คือ ไปขอทำงานร้านคนรู้จัก โดยไม่ขอรับเงินตอบแทน อันนี้จะเพิ่มโอกาสประสบการณ์การทำงานในครัวให้กับเรา จะได้รู้ว่าในครัวร้านอาหารจริงๆเขาทำกันยังไง ต้องเกี่ยวข้องกับอะไรบ้าง การเตรียมของ ความวุ่นวาย ปัญหาในครัว การทำงานจริง ฝึกความเหนื่อย ความอดทน ความร้อนจากเตา มีประโยชน์มากแน่ๆเวลาทำงานจริง กับการทดสอบมาตรฐาน
4. เตรียมตัวสอบอย่างดี อ่านหนังสือ
ก่อนสอบต้องอ่านหนังสือนะครับ นี่เป็นข้อดีของการไปอบรมที่สถาบันนี้ เขาจะมีคู่มือมาให้ ซึ่งมีประโยชน์มากทั้งตอนสอบข้อเขียนและสอบปฏิบัติ ผมเชื่อว่าน้อยคนที่จะอ่านจนจบ เพราะมันค่อนข้างน่าเบื่อ เป็นคำแนะนำ เป็นสูตรอาหาร ผมหลับไปหลายรอบกว่าจะอ่านจบ แต่พบว่าถ้าไม่ได้อ่านจบนี่แย่เลยนะ คำตอบของการสอบมันอยู่ในนั้นแหละ
ก่อนสอบต้องอ่านหนังสือนะครับ นี่เป็นข้อดีของการไปอบรมที่สถาบันนี้ เขาจะมีคู่มือมาให้ ซึ่งมีประโยชน์มากทั้งตอนสอบข้อเขียนและสอบปฏิบัติ ผมเชื่อว่าน้อยคนที่จะอ่านจนจบ เพราะมันค่อนข้างน่าเบื่อ เป็นคำแนะนำ เป็นสูตรอาหาร ผมหลับไปหลายรอบกว่าจะอ่านจบ แต่พบว่าถ้าไม่ได้อ่านจบนี่แย่เลยนะ คำตอบของการสอบมันอยู่ในนั้นแหละ
5. ทำให้ทันเวลา ตามมาตรฐานของเขา
ผมคุยมาหลายคน พบว่าปัญหาคือ ทุกคนก็ทำอาหารเป็นอยู่แล้ว ประสบการณ์เยอะ แต่นั่นไม่สำคัญเลย เพราะสถาบันนี้เขาไม่สนใจ เขาต้องการให้คุณเข้าใจ และสอบผ่านมาตรฐานของเขา ย้ำนะว่าของเขา ไม่ใช่ของเรา ในข้อนี้ คุณต้องรู้จักปรับตัว เขาต้องการอะไร ก็ทำไปครับ ทำอย่างดีเลย ความสะอาด การเก็บอุปกรณ์ กฎเกณฑ์อะไรก็ทำไป และที่สำคัญ ส่วนผสมที่เขาบอกมาทั้งหมดน่ะ ไม่ต้องใส่หมดก็ได้นะครับ คือ ปรุงให้มันอร่อยเป็นสำคัญด้วย เพราะคะแนนรสชาตินี่มากกว่าคะแนนอื่นนะครับ อ้อ และที่สำคัญ เขาตรวจถังขยะด้วย คุณจะต้องไม่ทิ้งเครื่องปรุง หรือวัตถุดิบลงในถัง คือ เรียกว่าในถังแทบไม่มีขยะเลยนั่นแหละ พื้นห้ามเปียกนะ ระวังเรื่องน้ำ เตาใช้เสร็จแล้วเช็ดให้เรียบร้อยด้วย
หลักที่สำคัญๆ ก็คงมีตามนี้ ของถ้าเอามาเยอะเกินไม่ต้องเดินกลับเอาไปคืน ใส่กระเป๋าผ้ากันเปื้ิอนไว้เลยเผื่อได้ใช้จานหน้า ขอให้สอบผ่านกันทุกคนนะครับ ส่วนผมขอตัวเดินไล่ตามความฝันข้างหน้าต่อครับ แคนาดาของผมใกล้เข้ามาอีกนิดแล้ว
ผมคุยมาหลายคน พบว่าปัญหาคือ ทุกคนก็ทำอาหารเป็นอยู่แล้ว ประสบการณ์เยอะ แต่นั่นไม่สำคัญเลย เพราะสถาบันนี้เขาไม่สนใจ เขาต้องการให้คุณเข้าใจ และสอบผ่านมาตรฐานของเขา ย้ำนะว่าของเขา ไม่ใช่ของเรา ในข้อนี้ คุณต้องรู้จักปรับตัว เขาต้องการอะไร ก็ทำไปครับ ทำอย่างดีเลย ความสะอาด การเก็บอุปกรณ์ กฎเกณฑ์อะไรก็ทำไป และที่สำคัญ ส่วนผสมที่เขาบอกมาทั้งหมดน่ะ ไม่ต้องใส่หมดก็ได้นะครับ คือ ปรุงให้มันอร่อยเป็นสำคัญด้วย เพราะคะแนนรสชาตินี่มากกว่าคะแนนอื่นนะครับ อ้อ และที่สำคัญ เขาตรวจถังขยะด้วย คุณจะต้องไม่ทิ้งเครื่องปรุง หรือวัตถุดิบลงในถัง คือ เรียกว่าในถังแทบไม่มีขยะเลยนั่นแหละ พื้นห้ามเปียกนะ ระวังเรื่องน้ำ เตาใช้เสร็จแล้วเช็ดให้เรียบร้อยด้วย
หลักที่สำคัญๆ ก็คงมีตามนี้ ของถ้าเอามาเยอะเกินไม่ต้องเดินกลับเอาไปคืน ใส่กระเป๋าผ้ากันเปื้ิอนไว้เลยเผื่อได้ใช้จานหน้า ขอให้สอบผ่านกันทุกคนนะครับ ส่วนผมขอตัวเดินไล่ตามความฝันข้างหน้าต่อครับ แคนาดาของผมใกล้เข้ามาอีกนิดแล้ว