Toy Story 3 - เมื่อ Woody และ Andy ต่างก็เติบโตขึ้นตามวัย (9/10)

Toy Story 3
ไม่เคยได้นั่งดูดีๆทั้งสามภาค เพิ่งได้ดูจริงๆเมื่อคืนนี้พร้อมกับลูกๆ หนังมาจากค่าย Disney Pixar เหมือนเดิม ให้เสียง Andy โดย Tom Hanks นี่คือเรื่องราวคร่าวๆที่เรารู้

หนังเปิตัวมาอย่างตื่นเต้น ฉากไล่ล่ากันทำได้อย่างสนุกเอาใจช่วยไปด้วย ทั้งภาพยานสุดเจ๋งดูทันสมัย ที่สำคัญทุกอย่างเป็นตัวการ์ตูนที่เราๆรู้จักกันดี (เด็กฝรั่งน่าจะรู้จักมากกว่าเด็กไทย) แล้วภาพก็ตัดมาเป็นภาพการเล่นตามจินตนาการของเด็กคนหนึ่ง แอนดี้นั่นเอง

หนังบอกเรากลายๆว่าของเล่นมีความสำคัญกับเด็กมากแค่ไหน ผู้ใหญ่อาจมองข้ามไปเพราะผ่านเวลามานานแล้วจนลืมไปว่าตอนเป็นเด็กเราสนุกกับของเล่นมากแค่ไหน โลกที่ทุกอย่างเป็นไปได้มันสุดยอดขนาดไหน เราโดนความโหดร้ายของชีวิตกลืนกินจินตนาการไปหมดแล้ว

หนังไม่ได้ทำให้เด็กดูได้เท่านั้น เราคิดว่ามันคือหนังของผู้ใหญ่ที่ยังมีหัวใจเด็กเลยเสียด้วยซ้ำ พวกเรายังจำกันได้ไหมกับวันที่ต้องบอกลา หรือต้องทิ้งของเล่นสุดรักไปอยู่ในกล่องแห่งความทรงจำ บทหนังทำได้อย่างแนบเนียนว่า ไม่เฉพาะแอนดี้ และวู้ดดี้เท่านั้นที่ต้องเติบโตขึ้นตามวันเวลา แต่พวกเราด้วยเหมือนกัน อยู่ที่ว่าเราปรับตัวปรับใจรับมือกับมันอย่างไรเท่านั้นเอง เราเหมือนจะทำเป็นลืมมัน ทั้งที่จริงๆแล้วเราไม่ได้ลืมมันเลย เราแกล้งจำมันไม่ได้ต่างหาก

กราฟฟิคหนังยอดเยี่ยม โปรดักชั่นไม่มีที่ติ เสียงพากย์เป๊ทุกส่วน นับเป็นหนังดีมากในรอบปี 2013 นี้เลยทีเดียว 

แนะนำให้ดูทั้งครอบครัวครับ (9/10)
5 itong2go: December 2013 Toy Story 3 ไม่เคยได้นั่งดูดีๆทั้งสามภาค เพิ่งได้ดูจริงๆเมื่อคืนนี้พร้อมกับลูกๆ หนังมาจากค่าย Disney Pixar เหมือนเดิม ให้เสียง Andy โดย...

The Conjuring [2013] - กลัวผีขี้ขึ้นหัว

The Conjuring [2013]
หนังผีทั้งหลายโดยมากจะเหมือนๆกัน คือทำให้เรากลัวเมื่อมองไปยังโลกของผี เหมือนจะพาเราไปอยู่ในโลกผีที่น่ากลัวชวนให้เราขนลุกสะดุ้งหวาดผวา แต่กับ The Conjuring นั้นแตกต่างโดยสิ้นเชิง เพราะหนังเรื่องนี้ พา "ผี" มาอยู่ในโลกจริงของเรา!!

ไม่ได้เป็นการพูดเกินจริงแต่อย่างใด ปกติผมไม่ได้กลัวผีอะไรนัก แต่ยอมรับว่าจบหนังเรื่องนี้ผมกลัวจนถึงกับหลอนเลยทีเดียว ไม่อยากเอ่ยถึงมัน ไม่อยากคิดถึงมัน หรือแม้กระทั่งไม่อยากเขียนรีวิวหนังเรื่องนี้ด้วยซ้ำ กลัวผีมันตามมาสิงคอมพิวเตอร์ สิงในบ้าน สิงในที่ทำงาน

หนังจั่วหัวมาว่าสร้างจากเรื่องจริงของบ้านที่มีผีสิง คอยทำร้ายรังควาญหรือแม้แต่สิงคนในบ้าน ทั้งมีเรื่องของตุ๊กตาผีแอนนาเบลมาชวนขนลุกในตอนเปิดเรื่องอีกด้วย ด้วยความที่ผมคิดว่าหนังมันชอบหลอกเราว่าจริง ก็เลยไปหาข้อมูลในเน็ต ปรากฎว่า สร้างจากเรื่องจริงไม่ได้โกหก หนังพูดถึงครอบครัวลูกสาวห้าคนในตอนเด็ก ปัจจุบันนี้ทั้งห้าคนนั้นก็ยังมีชีวิตอยู่ และสามารถยืนยันเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวัยเด็กได้ด้วย หรือแม้แต่ตุ๊กตาผีแอนนาเบลก็มีจริงและถูกเก็บรักษาอยู่ในที่ปลอดภัย 

ซ้ายคือ แอนนาเบลของจริงดูน่ารักแต่เฮี้ยนมาก ขวาคือเวอร์ชั่นในหนัง
ผมมีพื้นฐานเกี่ยวกับศาสนาคริสต์มากพอควร พอๆกับความรู้ทางวิทยาศาตร์ หนังมีการอ้างอิงคัมภีร์ไบเบิ้ล อ้างอิงพระเจ้า หลักการ Trinity อย่างสมจริง ทั้งยังอ้างหลักการทางวิทยาศาตร์อย่างสมจริงอีกด้วย (ตัวเอกของเรื่องเป็นนักวิทยาศาตร์) ตัวอย่างเช่น บ้านผีดุนี้มักจะมีเสียงทุบผนังตอนกลางคืน ปึ้งๆๆ หมอผี (ในเรื่องเรียกว่าผู้เชี่ยวชาญเรื่องเหนือธรรมชาติ) ก็อธิบายว่า นั่นคือการลบหลู่ พระเจ้า พระบุตร และพระวิญญาณบริสุทธิ์ ซึ่งเป็นภาคทั้งสามของพระเจ้านั่นเอง หรือแม้แต่การพยายามถ่ายภาพผี และติดตามผีด้วยการจับอุณหภูมิหรือจับการเคลื่อนไหวด้วยเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์

หนังพูดถึงการทำงานของซาตาน และวิญญาณที่ชั่วร้ายมากๆ วิธีที่มันทำกับคน ขั้นตอนที่มันเริ่มเข้าครอบงำคน เช่น เริ่มจากหลอกให้กลัว เมื่อกลัวแล้วก็เริ่มครอบงำ หลังจากนั้นก็เข้าสู่การเข้าสิง และครอบครองในที่สุด โดยเป้าหมายของซาตานคือ การลบหลู่พระเจ้าอย่างสุดขั้วโดยใช้มนุษย์เป็นเครื่องมือนั่นเอง

หนังบอกเราว่า ผีที่น่ากลัวที่สุดไม่ใช่ผีที่มองเห็น แต่มันคือผีที่มองไม่เห็น ผีที่เล่นกับความรู้สึกของเราได้นั่นน่ากลัวยิ่งกว่าผีใดๆที่มองเห็นด้วยตา หรือแม้แต่ของที่น่ากลัวบางครั้งก็อาจมาในรูปแบบของความน่ารักเช่น ตุ๊กตาแอนนาเบล เป็นต้น

อยากเล่ามากกว่านี้แต่ก็อยากให้ไปดูเองในโรง (เลือกที่นั่งประมาณแถว E, F กลางๆหน่อย จะเหมือนจอหนังมันโอบเราไว้) แต่หนังก็ออกโรงไปแล้ว ถ้าเช่ามาดูแนะนำให้ดูตอนกลางคืน จอใหญ่ๆ เปิดเสียงดังสักหน่อย และขอแนะนำว่า อย่าดูคนเดียวเด็ดขาด

สุดยอดความหลอน 10/10


5 itong2go: December 2013 The Conjuring [2013] หนังผีทั้งหลายโดยมากจะเหมือนๆกัน คือทำให้เรากลัวเมื่อมองไปยังโลกของผี เหมือนจะพาเราไปอยู่ในโลกผีที่น่ากลัวชวนให...

Ender's Game (2013) - เกมกลยุทธ์ไร้หัวใจ


เรื่องนี้ได้ไปดูด้วยความไม่ตั้งใจ หนังอยู่ในโรงมาสองอาทิตย์เตรียมจะออกอยู่แล้ว พี่ที่นับถือมาบอกว่าน่าสนใจ ไม่เลวทีเดียว ก็เลยเอาซะหน่อย ทำใจไว้แล้วว่าคงธรรมดา เพราะเช็คคะแนนหมดทั้งจาก IMDB, RottenTomato, Metacritic พบว่าอยู่ในระดับกลางเท่านั้น แต่ว่าคอหนัง SCI-FI อย่างเราก็หาข้ออ้างไปดูได้อยู่แล้ว

หนังเปิดฉากมาว่า โลกโดนเอเลี่ยนบุกถล่ม คนตายไปหลายล้านแทบสูญพันธุ์ แต่รอดมาได้เพราะนายทหารสุดยอดฝีมือที่เสียสละขับเครื่องบินหลบหลีกข้าศึกพุ่งเข้าชนยานแม่ของศัตรู จนต้องแตกค่ายพ่ายแพ้ไปในที่สุด

มนุษย์โลกหลังจากได้ชัยชนะที่ต้องสูญเสียมากมาย ได้เรียนรู้ที่จะป้องกันเหตุการณ์ในอนาคตโดยจัดตั้งกองกำลังพิทักษ์โลกขึ้นมา ระดมเด็กหัวกะทิจากทุกมุมโลก (ต้องเป็นเด็กเพราะเด็กจะแก้ปัญหาในเชิงเกมกลยุทธ์ได้เร็วกว่าผู้ใหญ่ - สังเกตุเด็กจะเล่นเกมเก่ง) เด็กที่ผ่านการคัดเลือกจะต้องเข้าค่ายฝึกเพื่อทดสอบหาผู้นำที่มีความพร้อมทั้งสติปัญญา ร่างกาย อารมณ์ ภาวะผู้นำ การตอบสนองต่อทีมงาน

สุดท้ายแล้ว ทีมรบเยาวชนก็ต้องเข้าสู่สงครามโดยการนำของ Ender โลกจะเป็นอย่างไรอนาคตฝากไว้ในมือของเด็กน้อยผู้นี้

หนังดีกว่าที่คาดไว้เยอะ Asa Butterfield เล่นเป็น Ender ได้ดีพอควร ส่วนลุง Harrison Ford น่าจะเป็นแฮริสัน ฝืดมากว่า ลุงเล่นเรื่องไหนทำไมมันมีหน้าเดียวแบบนี้ มันขัดกับภาพรวมของหนังยังไงๆอยู่นะ แต่หนังก็ถูกเติมเต็มด้วยภาพ CG ที่สวยงาม ฉากยานอวกาศที่แสนอลังการ เนื้อเรื่องที่แฟนตาซี แต่ก็แฝงปมบางอย่างเอาไว้ แม้ว่าตอนจบจะน่าผิดหวังก็ตาม

รวมแล้วดูได้ไม่เสียเวลา 7.5/10


5 itong2go: December 2013 เรื่องนี้ได้ไปดูด้วยความไม่ตั้งใจ หนังอยู่ในโรงมาสองอาทิตย์เตรียมจะออกอยู่แล้ว พี่ที่นับถือมาบอกว่าน่าสนใจ ไม่เลวทีเดียว ก็เลยเอาซะหน่อ...

Snowpiercer (2013) - ขึ้นรถไฟไปกุดหัวอำมาตย์

Snowpiercer
ยอมรับว่าตอนแรกไม่ได้สนใจเรื่องนี้เท่าไหร่ แต่ก็เริ่มสนใจนิดหน่อยตอนได้ยินชื่อ Chris Evans ก็อยากดูว่ากัปตันอเมริกามาเล่นดราม่าจะเป็นอย่างไร พอมาดูก็พบว่าผู้กำกับเป็นคนเกาหลีชื่อดังซะด้วย Joon-ho Bong ผู้สร้างชื่อมาจาก Mother และ The Host นั่นเอง เรื่องนี้น่าจะเป็นเรื่องแรกที่เข้าสู่ Hollywood หลังจากที่ก่อนหน้านี้ Chan-wook Park ก็พา Stroker เปิดตัวอย่างฮือฮาพอสมควร

เวลาดูหนังเกาหลี มันจะมีมวลบางอย่างที่อึมครึม ผมเดาว่ามันคือมวลด้านศีลธรรม ที่มันจะทำให้เราไม่กล้าตัดสินถูกผิดดีเลวได้อย่างเต็มร้อย เผลอๆบางครั้งอาจเอาใจช่วยตัวร้ายเสียด้วยซ้ำไป (ลองดู I saw the Devil) ก็ยังเป็นคำถามคาใจผมว่า ผู้กำกับเกาหลีมีปมอะไรเรื่องศีลธรรมกันนักหนา แต่ไม่ว่ายังไงมันก็ดีตรงที่เราต้องรอลุ้นไปจนจบเรื่อง และเป็นงานที่ท้าทายของคนเขียนบทอย่างมากด้วยเช่นกัน

Snowpiercer เล่าเรื่องคนกลุ่มสุดท้ายบนโลกที่หนาวเย็นมีแต่น้ำแข็ง และต้องอาศัยอยู่บนรถไฟที่เคลื่อนที่อยู่ตลอดเวลา หนังไม่ได้บอกว่ามีตู้ขบวนกี่ตู้ แต่ก็คงจะยาวมากเพราะมีทุกอย่าง!อยู่ในรถไฟนั้น ตั้งแต่ สปา โรงเรียน สวนผลไม้ ร้านซูชิ หรือแม้แต่ดิสโก้เทค

ที่ไหนมีคนที่นั่นก็จะมีความวุ่นวายเป็นธรรมดาของมนุษย์ขี้เหม็น ด้วยความที่รถไฟนี้แบ่งออกเป็นชนชั้นหัวขบวน (อำมาตย์) และชนชั้นท้ายขบวน (ไพร่) จึงเป็นที่มาของเรื่องนี้ ชนชั้นหัวขบวนก็คือพวก VIP ทั้งหลาย คนรวย ชนชั้นสูง ส่วนพวกท้ายขบวนก็คือ พวกยากจน ขอขึ้นรถไฟมาฟรีๆ พวกขอทาน คนจรจัด 

คนรวยมีอาหารการกินสมบูรณ์ดีทุกอย่าง ส่วนคนจนลำบากมากถึงขนาดกินกันเอง ด้วยความอนาจพวกคนรวยก็เลยแบ่งเศษขยะให้กินบ้าง และเพื่อเลี้ยงไว้เมื่อยามต้องการบางสิ่งบางอย่างจากพวกท้ายขบวน 

มันคือหนังการปฏิวัติชนชั้นในโลกใบเดียวกันนั่นเอง หนังบอกว่านี่ไม่ใช่การปฏิวัติครั้งแรก มันมีมาหลายครั้งทั้งที่สำเร็จ, ไม่สำเร็จและเกือบสำเร็จ ความอดทนมันมาถึงขีดสุดเมื่อคนรวยพรากเอาบางสิ่งบางอย่างที่เหลืออยู่ของคนจนไป และเมื่อมันเกิดขึ้น หายนะก็บังเกิด

หนังเลือดสาดพอสมควร มีฉากให้ต้องอึ้งอยู่หลายครั้ง ก็โหดตามสไตล์เกาหลีแบบที่คุณต้องนั่งกุมคอตัวเองเอาไว้ให้มั่น เคมีระหว่างผู้กำกับเกาหลีและนักแสดงฮอลลีวู๊ดดูจะยังไม่เข้ากันสักเท่าไหร่ CG บางฉากหน่อมแน้มจนน่าใจหาย บททำได้ดีแต่แอบยืดเยื้อบางขณะ รวมแล้วให้ข้อคิดได้ดีกับเมืองไทยปัจจุบัน

โลกนี้จะไม่มีปัญหา ถ้าเราเห็นคนอื่นเป็นคนเหมือนกับเรา ถ้าเห็นคนอื่นเป็นขยะเมื่อไหร่ ระวังให้ดีว่ามันจะพากันฉิบหายหมด!

คะแนน 7.8/10

5 itong2go: December 2013 Snowpiercer ยอมรับว่าตอนแรกไม่ได้สนใจเรื่องนี้เท่าไหร่ แต่ก็เริ่มสนใจนิดหน่อยตอนได้ยินชื่อ Chris Evans ก็อยากดูว่ากัปตันอเมริกามาเล่นดรา...

Frozen (2013) - my first time 4DX experience!

Frozen (2013)
เคยดูหนัง 3D กันไหมครับ ใส่แว่นแล้วภาพมันก็ยื่นๆลอยๆออกมา ดูสมจริงกว่าปกติ (แต่ผมว่าภาพมันหลอกๆ สีมันเว่อร์ๆยังไงไม่รู้นะ) แต่วันนี้ Major ใจดี เชิญสื่อไปร่วมสัมผัสประสบการณ์ 4DX ถือเป็นครั้งแรกของผมด้วยเหมือนกัน กับภาพยนตร์จาก Disney เรื่อง Frozen

เอาเรื่องโรงหนังก่อน วันนี้ไปที่ Central Festival Chiang Mai โรงน่าจะมี 8 โรงได้ มีอยู่หนึ่งโรงที่เป็นแบบ 4DX หน้าโรงก็ปกติทั่วไป ผมได้นั่งริมสุดแถวบนๆ น่าจะเป็นแถว C ไม่ก็ D ปกติถ้าเลือกได้ผมจะเลือกแถวกลางๆ ประมาณ E, F เพราะจะเหมือนภาพมันโอบเราไว้มากกว่าดูแถวบนๆซึ่งจะทำให้เราแปลกแยกจากหนัง (เหมือนเราเป็นคนดูอย่างเดียว ไม่มีส่วนร่วม)

เบาะจะใหญ่กว่าปกตินิดหน่อย มีที่วางเท้าด้วย รู้สึกไม่ค่อยถนัด ตรงที่วางมือมีปุ่มให้เลือกเปิดปิดน้ำได้ด้วย ยังงง น้ำอะไร จะปิดเปิดทำไม พอหนังจะฉายก็ให้สวมแว่นสามมิติจากนั้นก็เริ่มได้

หนัง Frozen เป็นหนังเพลงอารมณ์เหมือนดูหนังย้อนยุคนิดหน่อย เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับเจ้าหญิงที่ต้องคำสาปความหนาวเย็นผู้ต้องถูกโดดเดี่ยวจากน้องสาว ทุกสิ่งที่เธอไปสัมผัสเกี่ยวข้องจะเย็น แข็ง หนาวเหน็บไปทั้งสิ้น เนื้อเรื่องจัดว่าดีทีเดียว ไม่น้ำเน่าแบบเจ้าหญิงติ๊งต๊องเพ้อฝัน เด็กๆสามารถไปดูได้อย่างน่ารัก ภาพสวยงามโดยเฉพาะภาพน้ำแข็ง

หนังเล่าเรื่องเกี่ยวกับความหนาวลมพัดหนาวเหน็บ เราอยู่ในโรงหนังแอร์ก็เย็นอยู่แล้ว เจ้า 4DX ก็จะพัดเอาลม (มาจากไหนไม่รู้) เพิ่มความหนาวเย็นเข้าไปอีก ฉากที่ขี่ม้า เบาะก็จะขยับตามจังหวะควบม้าไปด้วย ก็แปลกๆดีเหมือนมีเครื่องนวดหลัง ฉากที่มองจากมุมสูงลงมา เบาะก็จะแอนไปข้างหลังแล้วโน้มมาข้างหน้า (อันนี้ชอบถือว่าใช้คุ้ม) ขี่ม้าผ่านทุ่งดอกไม้ เจ้า 4DX ก็จะส่งกลิ่นหอมออกมา (คล้ายกลิ่นสเปรย์ในรถ) ขี่ม้าลุยน้ำๆกระเด็น ก็มีน้ำจากไหนไม่รู้ พ่นละอองมาใส่หน้าเรา แค่พอเย็นๆไม่ถึงกับเปียก และมีเอฟเฟ็กฟ้าผ่านอกจออีกนิดหน่อย สำหรับเด็กๆคงจะสมจริงมากทีเดียว

ใครยังไม่เคยต้องไปลองสักครั้งครับ แปลกดีแท้คนเราก็คิดค้นเทคโนโลยีกันขึ้นมาได้ ต้องไปสัมผัสด้วยตัวเองแล้วจะเข้าใจเจ้า 4DX!!

คะแนนหนัง 7.5/10

5 itong2go: December 2013 Frozen (2013) เคยดูหนัง 3D กันไหมครับ ใส่แว่นแล้วภาพมันก็ยื่นๆลอยๆออกมา ดูสมจริงกว่าปกติ (แต่ผมว่าภาพมันหลอกๆ สีมันเว่อร์ๆยังไงไม่รู้นะ)...

ข้อคิดและกลยุทธ์จากเกมเพชร Bejeweled Blitz

เกมนี้แหละ เกมเพชร
เกม Bejeweled Blitz นี้เหมือนเป็นเกมเด็กๆ แต่มันไม่เด็กง่อยๆ มันแฝงความรู้ ข้อคิดอะไรเข้าไว้หลายอย่าง มองผิวเผินดูเหมือนใช้นิ้วรูดมั่วๆเล่นๆไป แต่ความจริงแล้วมันมีมากกว่านี้

กติกา
- เรียงเพชรสีเดียวกันให้ได้สามชิ้นขึ้นไป เพชรจะหายไป เราได้แต้ม เพชรข้างบนจะหล่นลงมา
- ทำแต้มให้ได้สูงสุดภายในเวลา 1 นาที
- แข่งกับตัวเอง ทำ Score ให้ได้มากที่สุด

สิ่งที่ได้จากการเล่นเกมส์นี้
- ความเร็วไม่ใช่คำตอบของที่สุด การเคลื่อนไหวสม่ำเสมอไม่หยุดสำคัญกว่า
- แนวตั้งจะส่งผลถล่มทลายมากกว่าแนวนอน
- สมาธิสำคัญมากในหนึ่งนาทีนั้น
- การเตรียมตัวก่อนเกมจะเริ่มมีผลต่อชัยชนะ (กวาดตามองภาพรวม)
- ทักษะและการเข้าใจกติกาเป็นสิ่งที่จำเป็น
- ถ้าเริ่มต้นไม่ดี โอกาสทำคะแนนได้สูงมีน้อยมาก
- หลายครั้งคะแนนดีแต่จัดการกับความกดดันของตัวเองไม่ได้ก็พลาดโอกาส
- อย่าใช้ตัวช่วยถ้ายังไม่เก่งพอ หัดเล่นแบบพื้นฐานไปก่อน
- ตัวช่วยไร้ประโยชน์ถ้าใช้ผิดที่ผิดเวลา
- มองหาโอกาสที่จะทำแต้มต่อให้ได้ก่อน
- บางครั้งต้องเชื่อสัญชาติญาณของตัวเอง (ไม่มีเหตุผล)
- เมื่อสิ่งดีเกิดขึ้น สิ่งดีอื่นๆมักเกิดขึ้นตามมา
- ตั้งใจมากเกินไป มักได้ผลลัพท์ที่ธรรมดา
- ที่ถูกต้องคือ ตั้งใจแต่ไม่กดดัน
- เตรียมตัวพร้อม ทำเต็มที่แล้ว ให้รอดูผลลัพท์มหัศจรรย์

ลองหามาเล่นกันดู ใช้กลยุทธ์อื่นๆแล้วได้ผล มาแชร์กันได้ครับ

5 itong2go: December 2013 เกมนี้แหละ เกมเพชร เกม Bejeweled Blitz นี้เหมือนเป็นเกมเด็กๆ แต่มันไม่เด็กง่อยๆ มันแฝงความรู้ ข้อคิดอะไรเข้าไว้หลายอย่าง มองผิวเผินดูเหม...

Facebook Comments

Recommended Post

เฮียโก บรรยายให้น้องๆมช.ฟังเรื่องการเริ่มต้นธุรกิจทำ content ออนไลน์

 บรรยายผ่าน zoom ครับ ก็จะแห้งๆนิดนึงแต่ก็ได้เนื้อหาอีกแบบนึงอยู่นะ เปิดฟังเองอีกรอบนึงก็สนุกดี พูดตะกุกตะกักไปหน่อย