MOBIKE บริการจักรยานอัจฉริยะมาถึงเชียงใหม่แล้วจ้า ไม่เกิน30นาทีปั่นฟรีไปเลย!

คันนี้เอามาจากหน้าห้างเมญ่า ปั่นไปหน้ามช. ใช้เวลาประมาณ 10 นาที

ที่มาของ mobike เชียงใหม่

เราก็เห็นมาเป็นอาทิตย์ๆละว่ามันมีจักรยานสีส้มๆจอดเรียงกันอยู่แถวประตูท่าแพ ละก็เห็นคนจีนปั่นกันแถวๆนิมมาน และก็เห็นจอดอยู่ที่ออฟฟิศ The Brick อีกคันนึง คิดในใจว่าไม่ปกติละ นี่มันไม่ใช่จักรยานของเทศบาล อันนี้มันดูดีกว่ามาก มันคืออะไรเกิดข้อสงสัยในหัวมากมาย

mobike คืออะไร

จนไปสืบหาข้อมูลได้รู้ว่า mobike คือบริการจักรยานสาธารณะ ให้เช่าปั่นโดยคิดราคาตามเวลาที่ใช้จริง เปิดตัวที่เชียงใหม่เมื่อวันที่ 18 มค.ที่ผ่านมา เริ่มต้นที่จำนวนจักรยาน 500 คัน โดยตัวจักรยานเรียกได้ว่าเป็นจักรยานอัจฉริยะ มันทำอะไรได้บ้าง

- มี GPS ฝังในตัวจักรยาน ทำให้ระบุตำแหน่งของจักรยานได้แม่นยำ และสามารถส่งสัญญาณไปยังศูนย์ได้หากพบกว่าเคลื่อนที่เร็วกว่า 50 กม./ชม. ในกรณีโดนยกขึ้นรถยนต์

- สามารถปลดล๊อคจักรยานได้โดยการสแกนบาร์โค้ด หรือระบุหมายเลขประจำตัวรถก็ได้

- เมื่อเราล๊อคคืน ระบบจะส่งสัญญาณไปที่มือถือเรา ทำการสิ้นสุดการเดินทางและคำนวณราคาให้โดยอัตโนมัติ

- mobike ไม่ใช้โซ่ในการขับเคลื่อน (คาดว่าใช้สายพาน) ทำให้ไม่มีปัญหาโซ่ตกหล่นขึ้นสนิม

- mobike มีระบบกันขโมย โดยจะส่งสัญญาณเสียงหากมีการเคลื่อนย้ายโดยไม่ปลดล๊อก

- ล้อรถเป็นยางตัน ทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องลมยางรั่วซึม

- มีกระดิ่งขอทางในตัว (อยู่ที่มือขวา ใช้หมุนเพื่อส่งเสียง)

- ไฟหน้าเปิดปิดอัตโนมัติ (หรือเปิดตลอดก็ไม่รู้นะ) แต่ปั่นตอนกลางคืนไฟมันออกเอง

- มีตะกร้าใส่ของอยู่หน้ารถ

- mobike รับน้ำหนักได้สูงสุดถึง 100 กก.

- เมื่อเราไปเจอ mobike ที่ไหน เราสามารถปลดล๊อคแล้วปั่นไปได้เลย ไม่ต้องมองซ้ายขวาว่าใครเอามาแล้วเราเอาไปได้หรือเปล่า ถ้ามันล๊อคอยู่แสดงว่าคนก่อนหน้าเขาคืนรถแล้ว

- เราสามารถปั่นไปไหนก็ได้ทั่วเมืองเชียงใหม่ ดูจากแมพแล้วขอบเขตคือบวกอำเภอรอบนอกไปอีกหนึ่งอำเภอเช่น แม่ริม หางดง สันกำแพง ถ้าคิดว่าปั่นไปถึงก็ปั่นไปได้เลย

- เราสามารถจอดและคืนรถที่ไหนก็ได้ (แนะนำว่าควรคืนที่จุดจอดในแมพจะขึ้นเครื่องหมาย P) ถ้าจอดในจุดที่กำหนดจะได้แต้มเพิ่มมากกว่าจอดมั่วไปเรื่อย ที่แน่ๆควรจอดให้เป็นระเบียบ

ลองปั่นครั้งแรกที่ห้างเมญ่า

ใช้ mobike แล้วเป็นยังไงบ้าง

 เรามันพวกขี้เห่อของแบบนี้ เป็นมาตั้งแต่สมัย UBER เข้ามาใหม่ๆละ พอ mobike มาเชียงใหม่นี่คือตื่นเต้นมาก รีบโหลดแอพมาใส่เครื่องไว้ก่อนเลย นั่งเล่นแอพก่อนหลายวันที่จะได้ปั่นจริง พบว่าแอพมีความคล้ายแอพอูเบอร์อย่างมาก ใครใช้อูเบอร์บ่อยๆนี่คือกดไม่กี่จึ๊กก็เข้าใจทันที

ได้เวลาตามหา mobike เช้านี้เรานั่งอูเบอร์มาห้างเมญ่า เจอ mobike สองคันจอดอยู่ตรงจุดจอดจักรยานของห้าง ก็เล่นเลยสิครับ สแกนปลดล๊อคแล้วลองปั่นตรงนั้นแหละ ยามก็งงว่ามึงเล่นไรกัน ปั่นได้สองสามนาทีก็ลองล๊อคจอดคืน แล้วดูในแอพว่ายังไง มันบอกเวลาที่เราใช้ บอกนาทีที่เราปั่น แล้วก็บอกว่าเราเซฟคาร์บอนไปเท่าไหร่ ผลาญพลังงานไปกี่แคลเลอรี่ โอ้ เจ๋งๆๆ

คราวนี้ลองปั่นจริง ออกจากห้างไปกินข้าวที่หน้ามช. เราได้รถหน้าเมญ่า เจ๊ไปได้หน้า Think Park คือดูจากแอพได้เลยว่าใกล้ที่เราอยู่มี mobike มั้ย มันจะบอกเลยว่ามีห่างจากเรากี่เมตรๆ เดินกี่นาที ได้รถแล้วก็พากันปั่นไปร้านกอบคำหน้ามอ ใช้เวลาประมาณ 10 นาที เออ นานเหมือนกันนะ เหงื่อออกซิบๆก็ดันปั่นไปตอนเที่ยงตรงร้อนโคตร ก็จอดรถ ล๊อค แล้วก็กินข้าวเสร็จแล้วก็ปั่นต่อไปออฟฟิศ เข้าไปโฉบในมช.เก๋ๆ ยามรีบโบกบอกคนจีนให้ไปทางนู้น เราบอกคนไทยพี่ แกก็ให้เข้าแบบงงๆ

ปั่นจากเมญ่าไปหน้ามช. ไปได้ไม่เร็ว ไปได้เรื่อยๆ

ความรู้สึกหลังใช้งานและคำแนะนำในการใช้ mobike

- mobike เป็นบริการที่ดีมาก ไม่ใช่สำหรับเฉพาะนักท่องเที่ยว แต่สำหรับคนเมืองอย่างเราๆด้วย ถ้าไม่ต้องเดินทางไกล การใช้ mobike เป็นอะไรที่ยอดมาก ปั่นไปได้เลยไม่ต้องกังวลเรื่องจุดจอดจุดส่งรถ หมดปัญหารถติดชีวิตเปลี่ยนทันที

- mobike เป็นจักรยานที่ออกแบบมาสำหรับใช้ระยะทางไม่ไกล คือจะปั่นไกลก็ได้นะแต่มันไม่สะดวก เพราะมันหนักและวงขา วงล้อมันไม่เหมือนรถปั่นไกลๆ ดังนั้น ระยะทางที่แนะนำคือ 3-5 กม. ต่อครั้ง (ไม่เกิน 30 นาทีปั่นฟรี แต่ไม่รู้ว่าเป็นโปรเฉพาะช่วงเปิดตัวหรือเปล่า)

- mobike ไม่เหมาะกับคนที่รีบมากๆ เพราะมันทำความเร็วไม่ได้เลย เดาเอานะว่าน่าจะสัก 10 กม./ชม. คือเร่งปั่นยังไงมันก็ไปได้เท่านั้นแหละ เพราะรถมันไม่มีเกียร์ใดๆ มีเกียร์เดียวถ้วน ถ้ารีบมากแนะนำใช้วิธีอื่น เช่น เรียก GRAB/UBER น่าจะไวกว่า

- การจอด แนะนำว่าให้จอด mobike ในที่สาธารณะ เพื่อให้คนอื่นได้พบเห็นและเอาไปปั่นต่อได้ง่าย ระบบนี้จะสำเร็จเมื่อมีรถจำนวนมาก และมีผู้ปั่นจำนวนมากพอที่จะช่วยกระจายจักรยานให้ไปอยู่ในซอกซอย ตามท้องถนน โดยไม่ให้กระจุกอยู่ตามจุดจอดเพียงไม่กี่จุด อีกทั้ง การเอาเข้าไปจอดในบ้านหรือในที่ส่วนบุคคลอาจผิดกฎหมายฐานลักทรัพย์ได้ การทำลาย mobike ก็อาจเป็นความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์เช่นกัน

สรุป

มาลองใช้กันเยอะๆครับ บริการดีๆแบบนี้ไม่ได้ให้เฉพาะคนต่างชาติ แต่เราคนไทยคนเชียงใหม่ก็ใช้ได้เช่นกัน ที่สำคัญคือ ฟรี ด้วยนี่แหละ คือผมก็อยากจะจ่ายเงินนะแต่มันปั่นไม่ถึง 30 นาทีสักที มีแต่ได้กับได้ เงินไม่เสีย สุขภาพก็ดีขึ้น การจราจรก็ดีขึ้น รถติดน้อยลง สุดท้ายแล้วคุณภาพชีวิตพวกเราทุกคนก็จะดีขึ้น ลองมั้ยครับเริ่มต้นที่ตัวเราเองก่อนนี่แหละ ว่าแล้วโหลดแอพ mobike มาติดเครื่องไว้ก่อนเลยปั่นไม่ปั่นค่อยว่ากัน

ปล. ไม่ได้ค่าโฆษณาแต่อย่างใด อยากโปรโมทเป็นการส่วนตัว

Search Post

Label :

เริ่มแล้วครับกับ Gomew Media Agency กับงานแรก OneDee ที่รอคอย

กองถ่ายหนังโฆษณาโปรโมท OneDee เครื่องตอกบัตรออนไลน์

ที่มาของ Gomew Media Agency

จากที่ได้เขียนบอกในโพสก่อนหน้านี้แล้วว่าปีนี้ เราจะเปิดบริการใหม่ชื่อว่า Gomew Media Agency (ตอนแรกไม่มีคำว่า Agency แต่ไม่อยากมัวมาอธิบายว่าเราคืออะไรก็ใส่ไปเลยละกัน) เป็นบริษัทเอเจนซี่รับทำ Content คิดงานให้ลูกค้าพร้อมทั้งให้คำแนะนำเลือกสื่อที่เหมาะสมกับสินค้าและบริการ เน้นลูกค้าที่ต้องการทำตลาดภาคเหนือเป็นหลัก โดยเรามีทีมผลิตคอนเท้นอยู่แล้วรวมทั้งมีสื่อที่แข็งแรงในมืออย่าง รีวิวเชียงใหม่ เป็นฐานในการสร้างงาน ทั้งยังจะเป็นแหล่งรวมของ Micro Blogger, Influencer อีกด้วย

ความคิดที่จะทำธุรกิจนี้มีมาได้หลายปีแล้วและได้เริ่มทำไปแล้วด้วยโดยการไปหุ้นกับพี่อีกคน แต่ก็ไปไม่รอดคงเพราะธรรมชาติเราเองคงไม่เหมาะที่จะมีหุ้นส่วน สุดท้ายเป้าหมายก็ไม่ได้เป็นเหมือนที่คิดแต่แรก ก็มีอันต้องเลิกราแยกย้ายกันไป แต่ความคิดที่อยากจะทำก็ยังมีในหัวมาตลอด

การทำรีวิวเชียงใหม่ ทำให้ได้เจอลูกค้าหลายแบบ มีทั้งแบบที่เข้าใจงานที่เราทำก็มี เข้าใจนิดนึงก็มี ไม่เข้าใจเลยก็มี แต่ว่าอยากลงโฆษณากับรีวิวอ่ะ คุณจะขายหรือไม่ขาย มันเป็นเรื่องลำบากใจที่เราต้องปล่อยผลงานที่แม้แต่เราเองก็ยังไม่ชอบออกมา เพียงเพราะว่าคำว่า เงิน มันบีบให้ต้องทำแบบนั้น ก็เลยต้องเกิดเป็น Agency แบบนี้ออกมา คือถ้าลูกค้าอยากเรื่องมากก็มาคุยกับเอเจนซี่เลย ถ้าจะซื้อรีวิวเชียงใหม่ก็ต้องปล่อยให้เขาทำงานตามสไตล์ของเขาไป ต้องไม่ไปยุ่ง เพราะรีวิวเชียงใหม่เองแค่ต้องกดดันกับความคาดหวังของ follower ก็เครียดพอแล้ว ไหนจะมาเจอลูกค้ามายุ่งมากดดันอีก สุดท้ายเละทั้งคู่ งานไม่ปัง คนไม่ดู ลูกค้าเสียเงินเปล่า งั้นถ้าจะเยอะมาเยอะกับเอเจนซี่เลย เยอะให้พอใจ และก็อย่าลืมเตรียมเงินมาเยอะๆด้วยนะ งานนี้ไม่ใช่ถูกๆนะ บอกเลย

ลูกค้ารายแรก

การทำธุรกิจคือการแก้ปัญหาอะไรบางอย่างให้กับใครบางคนหรือหลายคน ถ้าเป็น StartUp ก็ต้องแก้ปัญหาให้กับคนจำนวนมาก มันถึงจะโตแบบก้าวกระโดดได้ ส่วนของ GMA (Gomew Media Agency) เราเกิดมาเพื่อแก้ปัญหาการทำตลาดของลูกค้า โดยเฉพาะการทำตลาดในส่วนที่ต้องการอาศัยความคิดสร้างสรรค์อย่างมาก เช่น สินค้าที่ใหม่ล้ำนวัตกรรม บริการที่ใหม่และยังไม่มีใครรู้จัก หรืองานที่ต้องการฉีกออกไปจากรูปแบบเดิมๆ งานที่ต้องการผลลัพท์ใหม่ๆ งานที่กล้าลองวิธีการใหม่ๆ ถ้าวิธีเหล่านี้เป็นวิธีที่คุณต้องการ คุณก็เป็นลูกค้าของเราได้

OneDee Solution คือเครื่องตอกบัตรออนไลน์ เป็นของเพื่อนกันนี่แหละ เขาทำ StartUp คือตัว OneDee นี่สามารถ Scale ทำซ้ำได้จำนวนมาก ปัญหาของ OneDee คือเจ้าของกิจการ SMEs ทั้งหลายที่เป็นกลุ่มเป้าหมายยังไม่ educate ว่าเทคโนโลยีจะช่วยให้เขาบริหารจัดการพนักงานง่ายขึ้นได้อย่างไร ระบบตอกบัตรแบบออนไลน์คืออะไร มันดีกว่าระบบเดิมยังไง มันช่วยให้ประหยัดและมีประสิทธิภาพมากกว่าของเดิมแค่ไหน

ก็ต้องขอขอบคุณ OneDee อีกครั้งนึง ถ้าไม่มีลูกค้าคนแรกก็คงจะไม่มีลูกค้าคนที่สองเป็นแน่แท้ ทีมเราตั้งใจทำงานกันมาก คิดๆๆๆๆมากๆๆๆจนเพี้ยนๆบ้าๆบอๆกันไปหมดแล้ว5555

ลูกค้ารายต่อไป

พอมีคนรู้ข่าวว่าเราจะทำ Agency ก็มีคนมาสอบถามข้อมูลว่าอะไรยังไง เราบอกยังเพิ่งเริ่มต้นคงยังรับลูกค้ามากไม่ได้ ก็มีคนรู้จักอยากให้ช่วยคิดงานให้อีกสองสามราย ส่วนมากเป็นธุรกิจใหม่ๆพวก StartUp บ้าง บริษัทที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีอะไรพวกนี้ เพราะดูเหมือนว่าเราจะมีจุดแข็งในเรื่องการเข้าใจนวัตกรรม เทคโนโลยี การสื่อสาร และเป้าหมายของธุรกิจในยุคดิจิตัล สรุป ในมือตอนนี้มีอีกสามราย อ้อ ที่มาคุยวันก่อนก็อีกรายนึง รวมเป็นสี่รายครับ ตั้งเป้าปิดงานให้ได้เดือนละหนึ่งรายก็หรูแล้วฮะ รวมงานเดิมที่รีวิวเชียงใหม่ด้วยก็เรียกว่าแทบจะรากเลือดกันเลย ฝึกๆๆๆทำงานๆๆคิดมากๆๆๆ ขยันกว่าคนอื่นสิบเท่า ทีมงานเราไม่เก่งวันนี้จะไปเก่งวันไหน

สรุป

อ่านมาถึงตรงนี้คงรู้แล้วว่าธุรกิจใหม่ของเราคืออะไร ใครสนใจอยากใช้บริการติดต่อนัดหมายพูดคุยกันได้เลย เบอร์ออฟฟิศ 086-4313230 หรือที่ Line id: @reviewchiangmai หรือส่งอีเมลมาก็ได้ที่ info@gomew.com หรือจะ inbox fanpage หรือ DM ทางทวิตเตอร์ หรือจะอินบ๊อกทาง Instagram สรุปคือ ติดต่อได้ทุกช่องทางแหละครับ ลองดูนะ ใครมีปัญหาการทำตลาด ยอดขายสะดุด อยากเปิดตลาดใหม่ อยากโฆษณาให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย อยากได้เนื้อหาโดนๆ GMA ช่วยท่านได้แน่นอน

Search Post

Label :

[ไดอารี่] บันทึกสรุปปี 2017 และสิ่งที่คิดจะทำในปีต่อๆไป

รูปนี้ใช้เป็นรูปโปรไฟล์ใน Work Place ของออฟฟิศ

เห็นเขาเขียนกันก็เลยว่าจะจดบันทึกไว้บ้างว่าปีที่ผ่านมาเราคิดอะไร ทำอะไร นี่ไม่ได้เข้ามาเขียนนานแล้ว โดยเฉพาะบล๊อกภาษาไทยนี่ไม่ได้อัพมาเป็นปีๆแล้ว ห่างหายจากการเป็น blogger ไปตลอดทั้งปีเลย มาดูว่าปี 2017 เราผ่านอะไรมาบ้าง

เรื่องงาน

- ย้ายออฟฟิศไปอยู่ที่ The Brick Space ถนนศิริมังคลาจารย์ ค่าเช่าเดือนละ 14,000 บาทได้ห้องเล็กๆมาห้องนึงราคารวมค่าไฟค่าน้ำค่าแอร์ พนักงานเรารวมเด็กฝึกงานก็เต็มห้องพอดี ดีว่าทีมงานนี้สามัคคีกันดี เบียดกันหน่อยเลยอยู่ได้ไม่มีปัญหา แต่ที่หนักก็คือเรื่องการเดินทาง แถวนั้นมันรถติดมาก เราเลยใช้วิธีปั่นจักรยานเอา บางวันไม่อยากขับรถเข้าไปก็ไปนั่งทำงานที่ CAMP เมญ่าแทน

- เรื่องงานถือว่าก้าวหน้า ตลอดทั้งปีโฟกัสเรื่องงานกับเรื่อง Homestay มีการรับคนเพิ่ม มีการเพิ่มแผนกต่างๆ รวมไปถึงการเปิด Gomew Media Agency เป็นอีกหน่วยงานนึงของบริษัท เราคิดว่าถึงเวลาแล้วที่ลูกค้าเชียงใหม่จะต้องจ่ายราคาให้กับความคิดสร้างสรรค์ ความเป็น Specialist จะต้องใช้หากินได้

- Homestay เปิดมาหกเดือน มีลูกค้าเข้าเรื่อยๆยกเว้นเดือนกันยายน เงียบมาก ไม่มีแม้แต่คืนเดียว แต่ก็มาชดเชยดด้วยเดือนธันวาคมที่แทบจะไม่ว่างเลยสักคืน การเปิดที่พักทำให้เราต้อง active and alert มากกว่าเดิมเยอะ มันเป็นงานบริการที่ต้องทำให้ลูกค้าประทับใจ นั่นทำให้เราต้องเหนื่อยและทุ่มเทมากกว่าปกติ แต่ด้วยรายได้มันโอเค ช่วยให้เรามีใช้จ่ายในครอบครัวได้เพียงพอ มีแต่คนบอกให้ทำเพิ่มแต่เราไม่ไหวละ หาเงินเพิ่มทางอื่นดีกว่า

- Gomew Media Agency คือบริษัทเอเจนซี่ที่รับจัดการซื้อสื่อในเขตภาคเหนือ รวมถึงเป็น Micro Production Agency ให้กับลูกค้าด้วย คือทั้งซื้อสื่อทั้งผลิตคอนเท้นต์นั่นแหละ มีลูกค้ารายแรกคือ OneDee ของปริ๊นส์ที่เป็นเพื่อนกันเองนี่แหละ รายต่อมาหวังว่าจะได้มือถือเจ้าใหญ่มาเป็นลูกค้า ตั้งใจทำเต็มที่เราคาดว่าจะเป็นหัวหอกในวงการสื่อและเอเจนซี่เชียงใหม่เลยทีเดยว

- ปีนี้ได้ไปบรรยายหลายครั้ง เราชอบไปพูดไปบรรยายนะ รู้สึกว่ามันฝึกตัวเอง ก่อนจะไปพูดต้องทำการบ้านอย่างหนัก ไม่อยากพลาด กลัวคนฟังจะเสียเวลา เราเลยต้องเตรียมตัวให้ดี การพูดสองครั้งล่าสุดนี้โอเคมาก ได้เงินนิดหน่อยแต่ประทับใจมากกว่า คนฟังสนุกเราก็สนุกไปด้วย ออกแนวทอล์คโชว์นิดๆคนฟังจะได้ไม่เบื่อ ปีหน้าอยากจะไปบรรยายให้มากกว่าเดิมอีก ถ้าเรายังมีประโยชน์หรือเป็นแรงบันดาลใจให้ใครลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ เรายินดีทำ ให้ไปพูดฟรีๆก็ได้

เรื่องลูก ครอบครัวและสุขภาพ

- ลูกๆโตขึ้นกันทุกคน ลูกชายเริ่มเสียงแตกตัวโตใส่เสื้อผ้าของพ่อได้แล้ว ลูกสาวคนกลางก็เริ่มโตคือตัวโตกว่าเด็กรุ่นเดียวกันแต่ก็ยังมีความเป็นเด็กเยอะอยู่ ส่วนลูกสาวคนเล็กปีนี้ยังไม่ได้ไปโรงเรียนให้อยู่กับย่าใหญ่ ปีหน้าถึงจะให้ไปพร้อมพี่ๆ ไปโรงเรียนเดียวกันทั้งสามคนเลย

- ภรรยา ปีนี้ทะเลาะกันน้อยลงมาก หลังจากที่เคลียร์ปัญหากันไปเมื่อต้นปี หลังจากนั้นก็เหมือนว่าเราสนิทกันมากขึ้น คงเพราะเราไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อย มีอะไรก็คุยกัน มันเลยเป็นทั้งเพื่อน ทั้งภรรยา ทั้งแม่ของลูกไปในตัว 

- เรากับภรรยาได้ปั่นจักรยานด้วยกันบ่อยๆ จนน้ำหนักลดลงสุขภาพแข็งแรงขึ้นทั้งคู่ ปีหน้าตั้งใจจะปั่นให้มากกว่าปีนี้ สุขภาพดีไม่มีขาย อยากได้ต้องทำเอง เรายังยึดคติเดิมคือ ไม่ร้ายแรงจริงๆเราจะไม่กินยา ปีนี้ถ้าจำไม่ผิดเราไม่ได้กินยาเลยสักเม็ดเดียว

- ปีนี้กินเหล้าเยอะมากแต่ไม่เละเหมือนเมื่อก่อน แถมยังมุ่งมั่นกับการเมาไม่ขับ ตลอดทั้งปีแทบจะไม่มีโมเม้นต์เมาแล้วขับรถเลย คือก่อนจะไปกินต้องรู้จักวางแผนก่อนว่าจะไปยังไง กลับยังไง ถ้าคนทำแบบนี้กันหมดอุบัติเหตุคงจะลดลงไปมาก 

สิ่งที่ผิดพลาดเมื่อปีก่อน

- เล่นหวย คือไม่รู้อะไรเข้าสิง ไปเล่นหวยกับเค้าซะงั้น ลองเล่นไปสองงวด หมดเงินไปประมาณห้าพันถึงจะรู้สึกตัว ว่าเฮ้ย กูทำอะไรอยู่วะ มันใช่เราหรอเนี่ย หวังจะรวยจากเรื่องแบบนี้ ไร้สาระว่ะ ต้องทำงานสิถึงจะได้เงินไม่ใช่มารอลุ้นสิ้นเดือนกลางเดือน ลาขาดเลยครับ พลาดจริงๆกับเรื่องนี้

- พลาดในการพยายามย้ายโฮสลูกค้าจากที่เดิมไปที่ใหม่ แล้วมันเกิดล้มเหลวจนเราต้องขอคืนเงินลูกค้าและทำให้ต้องปิด Gomew Hosting ไปในที่สุด ไม่ได้เสียดายที่ต้องปิดโฮส แต่เสียดายที่เราน่าจะวางแผนการย้ายได้ดีกว่านี้ ลูกค้าอยากอยู่กับเราต่อแต่เราไม่สามารถเอง Support เขาก็ไม่ได้ด้วยแหละ ข้อดีคือปิดไปแล้วจะได้มาโฟกัสงานหลักได้ดีขึ้น

- มีหนังหลายเรื่องที่เข้าไปดูแล้วบอกเลยว่าพลาด คือพลาดที่หลงไปดูมัน เสียเวลา เสียความรู้สึก เสียดายสมอง มีหนังผีบางเรื่องนะดูจบแล้วเดินออกโรงมาพูดกับตัวเองเบาๆ เหี้ยเอ๊ย พลาดแล้วกูโดนผีหลอกจริงๆ หลอกให้เสียเวลา5555 แต่โดยรวมคือ เลือกหนังได้ดีขึ้น ส่วนมากจะดีทั้งสิ้น

สิ่งที่อยากจะทำต่อไป

- อยากทำบริษัท โกมิว จำกัด ให้โตกว่านี้คือ โตทั้งยอดขาย โตทั้งทีมงาน โตทั้งความรู้ความสามารถของทุกคน อยากเห็นคนทำงานโฟกัสงานของตัวเองอย่างจริงจัง มุ่งมั่นกับเป้าหมาย มีความชัดเจนว่ากำลังทำอะไรอยู่ เราอยู่จุดไหนและกำลังจะไปไหน ถ้าคิดว่าเราชัดแล้วปีหน้าเราอยากจะชัดกว่านี้อีก

- อยากปั่นจักรยานมากขึ้นและอยากชวนคนมาปั่นให้มากขึ้นอีก คือเมืองเชียงใหม่น่ะมันสิ้นหวังเรื่องระบบขนส่งมวลชน ทุกคนก็เลยต้องมีรถขับรถกันหมด อย่างน้อยที่สุดคือต้องมีมอเตอร์ไซค์ เราว่ามันไม่ใช่ไม่ตอบโจทย์ แต่ถ้าทุกคนมาปั่นจักรยานสิ รถก็จะไม่ติด สุขภาพก็ดีขึ้น เงินก็เหลือเพราะไม่ต้องเติมน้ำมัน อยากปลูกฝังว่าคนที่ปั่นจักรยานคือคนที่เสียสละ แม้จะเล็กน้อยแต่เขาก็สละพื้นที่บนท้องถนนด้วยการไม่ขับรถของตัวเองออกมา คนที่ปั่นจักรยานคือคนที่เขามีรถเหมือนทุกคนนั่นแหละ เพียงแต่เขาเลือกที่จะไม่ขับมันออกมา ส่วนตัวเราปีหน้าตั้งใจจะใช้รถยนต์ให้น้อยที่สุด

- อยากซื้อหุ้นปันผลเพิ่ม ปีนี้เพิ่งมาชัดเจนว่าเราเหมาะกับหุ้นปันผลหลังจากหาแนวให้ตัวเองมาหลายปี ทั้ง VI, Growth แต่มาจบลงที่แนวๆปันผลนี่แหละ อยากวางให้เงินทำงานให้มากกว่านี้

- อยากซื้อจักรยานเพิ่มอีกหนึ่งคัน เอาแบบระดับกลางๆหน่อยปั่นสบายๆไม่หนักมาก พอครบสี่คันก็จะชวนลูกๆไปปั่นพร้อมๆกัน ส่วนตัวเล็กคงอีกหลายปีกว่าจะปั่นกับพี่ๆได้ รอไปก่อน

- อยากพาลูกๆไปเที่ยวต่างประเทศทุกปี ปีก่อนนั้นพาสองโกไปฮ่องกง เดินกันขาลาก เด็กๆได้รับประสบการณ์ที่ดี เราไม่เข้าห้าง เราเดินเที่ยวข้างถนน ครั้งหน้าอยากพาเด็กไปญี่ปุ่นแต่ค่าใช้จ่ายก็มหาศาลเหลือเกิน เพราะทั้งบ้าน5คนมันต้องจ่ายเพิ่มทุกอย่าง แต่เพื่อลูกๆพ่อจะหาทางพาไปให้ได้

- อยากไปโบสถ์มากขึ้น คือไม่ใช่ในแนวศาสนานะ เราไปแล้วฟังคำสอนเรื่องพระคุณของพระเจ้าแล้วมันแบบชีวิตมึงเปลี่ยนเลย แนวคิดถูก reverse ใหม่หมด คือกลายเป็นคนใหม่ในคนเดิม แต่แนวคิดดีๆมันก็ต้องรักษาไว้เพราะคนเรามันเปลี่ยนได้ การได้ไปที่ Abundant Grace Church คืออีกหนึ่งสิ่งที่ effect and impact ต่อตัวเรามาก คือเรารู้ว่ามันดีและก็อยากไปแหละ แต่ก็ไม่อยากขับรถ เกลียดและกลัวรถติดขึ้นสมอง กับว่ามันเปิดฟังทางยูทูปได้ด้วยแหละ แต่ถ้าได้ไปฟังสดๆไปเจอผู้คนบ้างมันก็ดีกว่าฟังแห้งๆที่บ้าน เอาล่ะ เอาใหม่ๆปีนี้ถ้าไม่ขับรถไปก็จะเรียก Grab, Uber ไปแทน

- มีที่อยากจะทำอีกนะ แต่คิดไม่ออกละ ค่อยมาต่อตอนใหม่ละกัน บัยๆๆ สวัสดีปีใหม่นะทุกคน

Search Post

Label :